ข้อมูลทั่วไปของวัดวัดปัญญาวุธาราม
- ชื่อวัด: วัดปัญญาวุธาราม
- ประเภทวัด: วัดราษฎร์/พัทธสีมา
- นิกาย: มหานิกาย
- พระภิกษุ: 9 รูป
- สามเณร: 18 รูป
- ลูกศิษย์วัด: 3 คน
- ที่ตั้ง: เลขที่ 515 หมู่ 2 ฮอด-ดอยเต่า ตำบลหางดง อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ รหัสไปษณีย์ 50240
- เนื้อที่: 75ไร่
- โทร: 08-11472424
- แฟกซ์: 053-831154
- เว็บไซต์: watsangoo.myreadweb.com
ประวัติความเป็นมา
เดิมเป็นวัดร้างมาหลายร้อยปี ยังไม่สามารถค้นหาประวัติจากที่ใดได้ ผู้เฒ่าผู้แก่เพียงเล่าสืบต่อกันมา เมื่อ พ.ศ. 1201 พระนางจามเทวี บรมราชนารีศรีสุริยวงศ์ องค์ปรินทร์ปิ่นธานีหริภูญชัยเสด็จขึ้นครองเมืองที่ตั้งใหม่ นามว่า "หริภูญชัย" หรือเมืองลำพูน หลังจากเสร็จสิ้นการสงครามแล้ว พระนางจามเทวีได้บวชที่วัดแห่งนี้ พร้อมทั้งได้สร้างกู่(เจดีย์) เก็บกระดูกไพร่พลที่เสียชีวิตในการทำสงครามเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับจากไป แต่กู่เจดีย์ที่ทะลุผุพังลงไปเหลือแต่ท่อนล่างเป็นโพรงใหญ่ขนาดคนเข้าไปอยู่ในนั้นได้สบาย แต่ปัจจุบันโพลงนั้นได้พังลงหมดแล้ว ซึ่งอาจจะเนื่องมาจากปี พ.ศ.2497 ท่านครูบากาบ ชัยลังกาโร เจ้าอาวาสวัดอินทาราม(แม่ทัง) ตำบลหางดง อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ได้ไปเห็นกู่เก่า ว่าจะเอาไปทำประโยชน์ทางอื่นได้ดีกว่าปล่อยไว้อย่างนั้น ท่านครูบากาบจึงให้ชาวบ้านแม่ทังขนอิฐใส่เกวียนไปก่อสร้างที่โรงเรียนบ้านแม่ทัง ทั้งแต่นั้นโพลงที่อยู่มานับร้อยๆปี ก็พังทลายลงเหลือเพียงอิฐส่วนน้อยที่เห็นดังกล่าวในปัจจุบัน คือก่อนที่ท่านครูบากาบและก่อนที่ชาวบ้านแม่ทังจะมาขนลากอิฐไปนั้น ชาวบ้านกองหิน ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ใกล้วัดร้างนี้ ประมาณ 2 กิโลเมตร โดยมีแม่อุ้ยคำ คำปั๊ก ได้ยินเสียงม้าและช้างวิ่งเป็นหมู่ๆ เสีงอึกระทึก ชาวบ้านต่างสันนิฐานว่าเจ้าของกู่หรือผู้รักษาสถานที่กำลังขนย้ายสมบัติ เจ้าของก็เป็นได้ ในปัจจุบันนี้ถึงแม้ว่าจะเหลือเพียงน้อยนิด เพียงเศษอิฐกองหนึ่งชาวบ้านก็ยังเรียกสันกู่เช่นเดิมและยังเป็นสถานที่ยำเกรงเคารพบูชาของศรัทธาชาวบ้านญาติโยมทั่วไปตลอดมา
สถานะภาพของวัดในปัจจุบัน
• วัดพัฒนาดีเด่น เมื่อวันที่ 31 เดือน พ.ศ. 2560
• ได้รับอนุญาตตั้งเป็นวัด เมื่อวันที่ 19 เดือน พ.ศ. 2531
• ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 14 เดือน พ.ศ. 2533
• วัดพัฒนาตัวอย่าง พ.ศ. 2537
• วัดอุทยานการศึกษา พ.ศ. 2536
สถานที่ที่น่าสนใจภายในวัดวัดปัญญาวุธาราม
ประวัติวัดปัญญาวุธาราม (สันกู่) ตามประวัติเมืองฮอด “พิศดารนคร” ว่าเมื่อปีพ.ศ.๑๒๐๑ พระแม่เจ้าจามเทวี บรมราชนารีศรีสุริยะวงค์ องค์บดินทร์ปิ่นธานีหริภุญชัย เสด็จขึ้นมาครองเมืองที่ตั้งขึ้นใหม่นามว่า “หริภุญชัย” หรือ เมืองลำพูน ผู้สร้างนครหริภุญชัยหรือเมืองลำพูน ได้ออกทำศึกกับอริราชศัตรูในเขตชายแดนฝั่งเหนือ และหลังจากการสู้รบแล้ว พระองค์ทรงเสร็จกลับนคร พร้อมกับศพของทหารที่ร่วมรบกับพระองค์โดยเสด็จกลับทางน้ำ ขณะนั้นเป็นหน้าน้ำหลากกระแสน้ำเชี่ยวมาก เรือที่บรรทุกศพของทหารได้ล่มลง (ซึ่งปัจจุบันเป็นบริเวณท้ายวัดปัญญาวุธาราม (สันกู่)) พระองค์จึงมีคำสั่งให้ทหารทั้งหมดค้นหาศพที่จมอยู่ในท้องน้ำและให้นำศพขึ้นมาทำพิธีตามสมัยโบราณ ต่อมาได้ตั้งเป็นวัดขึ้น ส่วนพระแม่เจ้าจามเทวีได้บวชและถือศีลอยู่ที่วัดแห่งนี้ พร้อมได้สร้างกู่ (เจดีย์) เก็บกระดูกเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ไพร่พลที่เสียชีวิตในสงคราม และทรงเสด็จกลับนครหริภุญชัย จนกระทั่งบั้นปลายชีวิตของพระแม่เจ้าจามเทวี พระองค์ได้ทรงเสด็จกลับมาที่วัดนี้และได้มาปฏิบัติธรรมถือศีล จากคำบอกเล่าของคนเก่าแก่ในเมืองฮอดได้มีคำเล่าขานกันมาว่า พระแม่เจ้าจามเทวีได้มาบวชและปฏิบัติธรรมให้กับดวงวิญญาณของทหารที่วัดแห่งนี้
จากนั้นวัดนี้ก็ร้างมาเป็นเวลาพันปี ไม่มีผู้ใดกล้าเข้ามา จนกระทั่งเมื่อปีพ.ศ.๒๕๒๑ ท่านเจ้าคุณอาจารย์ (พระเทพสิทธาจารย์) ได้กราบอาราธนานิมนต์ หลวงปู่ครูบาพรหมา วัดพระพุทธบาทตากผ้า จังหวัดลำพูน มาเป็นผู้มาเปิดเป็นสำนักปฏิบัติธรรม และได้ยกขึ้นเป็นวัดในลำดับต่อมา คำว่า “สันกู่” เป็นภาษาของเมืองเหนือ แปลเป็นภาษาไทยว่า “สถานที่ฝังกระดูก” ซึ่งชาวบ้านเรียกวัดแห่งนี้ติดปากกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปีและเป็นประวัติศาสตร์คู่กับเมืองฮอดมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนี้
ความน่าสนใจภายในวัดปัญญาวุธาราม
เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๗ ครูบากาบ ชยฺลงฺกาโร เจ้าอาวาสวัดอินทาราม ได้มาพบกู่เก่าแห่งนี้ เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๑ พระครูพิพัฒน์ คณาภิบาล (ทอง สิริมงฺคโล) เจ้าคณะอำเภอฮอด ได้บูรณปฏิสังขรณ์ เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๒ พระสุพรหมยานเถระ (ครูบาพรหมจักร พรหมจกฺโก) เป็นประธานเปิดสำนักวิปัสนากรรมฐาน เมื่อ พ.ศ.๒๕๓๑ มติมหาเถระสมาคมยกวัดร้างเป็นวัดมีพระสงฆ์จำวัด เมื่อ พ.ศ.๒๕๓๖ ได้รับรองประกาศเป็นอุทยานการศึกษาโดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ.๒๕๓๗ ได้รับเลือกจากกรมศาสนา กระทรวงศึกษาธิการให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๓ ความดำริของพระราชพรหมจารย์ (พระอาจารย์ทอง สิริมงฺคโล) เจ้าคณะอำเภอฮอด มีพระราชพุทธิญาณ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นำคณะอำเภอฮอดพร้อมคณะสงฆ์และทางราชการ ได้จัดตั้งวัดให้เป็นศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติประจำอำเภอฮอด พ.ศ.๒๕๕๘ พระครูวรญาณมงคล เจ้าคณะอำเภอฮอด ตั้งเป็น ศุนย์ประสานงานคณะสงฆ์อำเภอฮอด (เพื่อสนองงานกิจการคณะสงฆ์) พ.ศ.๒๕๕๙ พระครูวรญาณมงคล เจ้าคณะอำเภอฮอด ตั้งเป็น หน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลหางดง เขต๒ พ.ศ.๒๕๕๙ ได้รับเลือกจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้เป็น วัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น โดยมี พระครูใบฎีกาธนวัฒน์ ปญฺญาวุโธ เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน
ข้อมูลเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2555
พระครูใบฎีกาธนวัฒน์ ปญญาวุโธ เจ้าอาวาสวัดปัญญาวุธาราม
พระครูใบฎีกาธนวัฒน์ ปญญาวุโธ
ปัจจุบันอายุ 23 ปี
บวชมาแล้ว 4 พรรษา
มีลำดับชั้นสมณศักดิ์เป็น พระครูฐานานุกรมในพระธรรมมังคลาจารย์(หลวงปู่ทอง)
ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็น รักษาการเจ้าอาวาสวัดปัญญาวุธาราม และยังดำรงตำแหน่งเป็นประธานหน่วยอบรมประชาชน
ประวัติด้านการศึกษาของพระครูใบฎีกาธนวัฒน์ ปญญาวุโธ
พระครูใบฎีกาธนวัฒน์ ปญญาวุโธ เจ้าอาวาสวัดปัญญาวุธาราม
จบการศึกษาศึกษาระดับปริญญาตรี จากสถานบันการศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ เชียงใหม่ เมื่อปีการศึกษา พ.ศ.2559
อดีตเจ้าอาวาสวัดปัญญาวุธาราม
พระครูใบฎีกาธนวัฒน์ ปญฺญาวุโธ |
ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี พ.ศ.2556 ถึงปัจจุบัน |
พระครูใบฎีกาพิษณุ สจฺจวโร |
ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี พ.ศ.2544 ถึงปี พ.ศ.2556 |
ชนเผ่าปากะญอ (วิถีชีวิต) - ข้อมูลศิลปะและวัฒนธรรมวัดปัญญาวุธาราม
ชนเผ่าพื้นเมือง พระภิกษุสามเณร ผู้พำนักอาศัยภายในวัดส่วนใหญ่ มีชาติพันธุ์ ชนเผ่าปากะญอ บวชเพื่อศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย และปฏิบัติธรรม
การจัดการศึกษาภายในวัดปัญญาวุธาราม
การจัดการศึกษาภายในวัดปัญญาวุธารามนั้น จะประกอบไปด้วย
- จัดการศึกษาแผนกธรรม-บาลี
- โครงการส่งเสิรมเด็กชาวเขาเรียนปริยัติ
- โครงการลานบุญ ลานปัญญา